หลังเกม ยูโร 2020 รอบรองชนะเลิศ ที่ ทีมชาติอังกฤษ เป็นฝ่ายเบียดเอาชนะ ทีมชาติเดนมาร์ก ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 โดย “ทัพสิงโตคำราม” มาได้ประตูชัยจากการของ แฮร์รี่ เคน ในนาที 104 ซึ่งมาจากจังหวะซ้ำจุดโทษที่ตัวเองยิงไม่เข้าในจังหวะแรกเข้าไป ซึ่งจังหวะจุดโทษนี้  ยังกลายเป็นข้อถกเถียง เพราะหลายคนมองว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง เจตนาพุ่งล้มเพื่อเอาจุดโทษ แต่อย่างไรก็ตาม กรรมการในสนาม ได้ตัดสินโดยใช้ VAR ซึ่งถือว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว

สเตอร์ลิ่ง

ซึ่งทาง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แนวรุกทีมชาติอังกฤษ ที่เกมนี้ป่วนแนวรับเดนมาร์ก ตลอดทั้งเกม

ได้กล่าวว่า “มันเป็นการเล่นด้วยฟอร์มที่สุดยอดเลยล่ะ เกมนี้เป็นครั้งแรกที่เราเสียประตู แต่เราก็ตอบโต้ได้ดีเรารู้อยู่แล้วว่าเกมนัดนี้มันจะไม่ง่าย แต่เราก็ค่อยๆเล่นอย่างระมัดระวัง แต่ก็ยังใส่ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นเข้าไปด้วย

เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่เรากำลังก้าวเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตอนนี้เราพุ่งเป้าไปที่เกมในช่วงสุดสัปดาห์ เราจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปตามสเต็ป เรารู้ว่าฟุตบอลสำคัญกับประเทศอังกฤษมากแค่ไหน

ตอนนี้ในด่านหน้า เรายังมี ทีมชาติอิตาลี ที่กำลังยืนท้าทายพวกเราอยู่ และเราจะฉลองกับชัยชนะในเกมนี้พอเป็นพิธี แล้วจากนั้นเราจะพุ่งสมาธิทุกอย่าง ไปกับเกมที่จะพบกับ อิตาลี

ส่วนเรื่องของจุดโทษ ผมหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แล้วเขาแหย่ขามาสกัดที่ขาของผม สำหรับผมแล้ว มันคือจุดโทษอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นประตูไปแล้ว”

ทางด้าน แฮร์รี่ เคน ได้กล่าวว่า “ตอนยิงจุดโทษ ก่อนจะยิงในจังหวะนั้น ผมได้เลือกเอาไว้แล้วว่าจะยิงไปฝั่งไหน ครั้งนี้ผมยิงได้ไม่ดี แต่บางครั้งเมื่อพลาดแล้ว บอลมันก็ยังเป็นใจมาเข้าทาง ซึ่งครั้งนี้ผมโชคดี

เกมกับ ทีมชาติอิตาลี มันจะเป็นเกมสุดหิน แต่พวกเราก็เล่นด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งมาตลอดทัวร์นาเมนต์นี้ เหลืออีกแค่เกมเดียว แล้วเราได้เล่นในบ้านของพวกเราเอง ผมแทบจะรอเกมนี้ไม่ไหวแล้วจริงๆ”

อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน และถ้าใครกำลังมองหาเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ สมัครได้ที่ เพื่อความสนุก และตื่นเต้น อย่างปลอดภัย โอนไว รับเงินจริง

Posted in ข่าวฟุตบอล

ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แนวรุกคนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วางเป้าหมายว่าตนเองอยากพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ 2 รายการที่เหลือของซีซั่นนี้อย่างเอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

โดนสเตอร์ลิ่ง เพิ่งทำผลงานได้อย่างสุดยอด หลังเหมาคนเดียว 3 ประตูในเกมที่ “เรือใบสีฟ้า” บุกชนะ ไบรท์ตัน 5-0 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมา พร้อมทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาเก็บชัยได้อีกครั้ง และมีเพิ่มเป็น 72 คะแนนจาก 35 เกม รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงต่อไป

สเตอร์ลิ่ง

และจากการทำแฮตทริกดังกล่าวส่งผลให้สเตอร์ลิ่ง ยิงไปแล้วถึง 27 เกมรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ซึ่งมากที่สุดในอาชีพค้าแข้ง ซึ่งแบ่งเป็นในลีกอย่างเดียว 17 ประตู และเป็น 4 ประตูจาก 6 เกมหลังสุด

นอกจากนั้นยังเป็นแฮตทริกที่ 4 ของ สเตอร์ลิ่ง กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมจาก ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2015-16 โดยเป็นรองเพียงแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ซึ่งทำแฮตทริกได้มากที่สุดในทีม “เรือใบสีฟ้า” ที่ 9 ครั้ง

หลังเกม “สเตอร์ลิ่ง” ที่ได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมทช์

หลังเกมสเตอร์ลิ่ง ที่ได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมทช์ ในเกมที่ผ่านมาให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผมคือการทำประตูเหล่านี้เพื่อให้ทีมบรรลุเป้าหมายเพิ่ม โดยสุดท้ายหากเราสามารถคว้าแชมป์ได้ทั้ง เอฟเอ คัพ และยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มันคงเป็นเรื่องที่ดี อย่างไรก็ตามหากว่าเราทำไม่ได้การทำแฮตทริกรวมถึงประตูอื่นๆของผมมันคงจะไม่มีความหมายใดๆ”

สเตอร์ลิ่ง

นอกจากนั้นหลังเกมนี้ แกรมส์ ซูเนสส์ อดีตแข้งระดับตำนานของ ลิเวอร์พูล ได้กล่าวว่าสเตอร์ลิ่ง นั้นเป็นนักเตะที่ดีกว่า ซาดิโอ มาเน่ แนวรุกของ “หงส์แดง” โดยระบุ “ผมคิดว่าสเตอร์ลิ่ง ดีกว่า มาเน่ ตรงที่เขามีอายุน้อยกว่า และเขาก็อยู่ในระเดียวกับ มาเน่ แล้ว และเยังมีเวลาพัฒนาตัวเองอีกมากมาย อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่า มาเน่ ไม่เก่ง เพราะเขาคือผู้เล่นที่คล้ายกับนักรบ และเชื่อว่าทุกสโมสรต้องการตัวเขาไปร่วมทีม”

ส่วน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ระบุถึงผลงานของลูกทีมในเกมนี้ว่า “ผมพอใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็นผลการแข่งขัน หรือระดับการเล่นที่เราสามารถไปถึงได้ โดยตอนนี้เราอยู่ในระดับที่ดี และพร้อมจะเล่นในช่สงสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก (อีก 3 เกม) รวมถึงรายการอื่นๆไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเอฟเอ คัพ”

“ส่วนความพ่ายแพ้ในเกมกับ เซาแธมป์ตัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นตอนนี้เราลืมไปหมดแล้ว ทั้งๆที่เราก็เล่นได้ดีไม่ต่างกับเกมนี้แต่กลับไม่สามรรถทำประตูได้ ซึ่งฟุตบอลบางทีก็มีอะไรแปลกประหลาด”

อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน

Posted in ข่าวฟุตบอล