Tag: พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
- 0
การแข่งขันฟุตบอล ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022-2023 นั้น ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพักเบรคการแข่งขันเป็นเวลา 1 เดือน ให้กับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาต้า ซึ่งถือได้ว่าเป็นเคสพิเศษ เพราะเป็นการจัดการแข่งขันที่แตกต่างจากการแข่งขันฟุตบอลโลกในทุกครั้ง ที่ปกติจะจัดในช่วงหน้าร้อน แต่ก็ด้วยการที่ประเทศกาตาร์นั้นมีภูมิอากาศร้อนอบอ้าว จึงทำให้ต้องจัดกันในช่วงหน้าหนาว

โดยศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ รวมไปถึงลีกอื่นๆ ก็ต้องมีการพักเบรคให้กับการแข่งขัน ฟุตบอลโลก ไป ซึ่งในปัจจุบันนั้น พรีเมียร์ลีดก ก็กำลังจะกลับมาแข่งขันกันอีกครั้ง กันช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล โดย ที่วันนี้เราก็จะมาคาดการณ์กันว่าเมื่อจบการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในฤดูกาลนี้ไปแล้วนั้นในกลุ่มท็อปโฟร์อันดับจะเป็นอย่างไรและทีมไหนจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไปครองได้ วันนี้เราจะมาดูกันกับการคาดการณ์ที่ดูจากผลงานและศักยภาพโดยรวมของแต่ละทีม ข่าวด่วนพลีเมียร์ลีก
ผลงานเมื่อจบฤดูกาลของทีม ท็อป โฟร์ ใน ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022- 23 จะเป็นทีมอะไร
อันดับที่ 1 หรือทีม แชมป์ศึก พรีเมียร์ลีกนั้นต้องยกให้กับทีม เรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่มีศักยภาพโดยรวมที่ยอดเยี่ยม และปัจจุบันนั้นก็มีแต้มตามหลังจ่าฝูง อยู่แค่ 5 แต้มเท่านั้น พวกเขามักจะเป็นทีมที่มีความมุ่งมั่น และมากจะทำผลงานได้อย่างดีต่อเนื่องในช่วงท้ายของฤดูกาล และในฤดูกาลนี้ก็คาดว่ามันจะเป็นเช่นนั้นอีกครั้งหนึ่ง และจะทำให้พวกเขาก็คว้าแชมป์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ได้ 3 สมัยติดต่อกัน
อันดับที่ 2 ยกให้กับ อาร์เซนอล แม้ว่าผลงานในปัจจุบันจะนำเป็นจ่าฝูงแต่ถ้าหากจะพูดถึงศักยภาพของพวกเขานั้นอาจจะยังไม่ดีพอที่จะประสบความสำเร็จได้ในฤดูกาลนี้ซึ่งก็คาดว่าอันดับที่ดีที่สุดของพวกเขาหลังจบฤดูกาลก็น่าจะเป็นอันดับที่ 2 ของตารางคะแนน

อันดับที่ 3 สเปอร์ส ถือเป็นทีมที่ผลงานของพวกเขากลับมาดีอีกครั้งในฤดูกาลที่ผ่านมาก็จบในอันดับที่ 4 ได้โควต้าพิเศษในฟุตบอลถ้วย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ภายใต้การคุมทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ ยอดกุนซือชาวอิตาลี
อันดับที่ 4 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องยอมรับว่าผลงานของพวกเขาในฤดูกาลนี้กลับมาทำได้ดีอีกครั้ง และเป้าหมายของภูเขากับการจบในกลุ่มท็อปโฟร์ได้นั้นน่าจะทำสำเร็จซึ่งก็ถือได้ว่าพวกเขาเป็นทีมที่จัดอยู่ในระดับ Top ของโลก ศักยภาพโดยรวมของตัวผู้เล่นนั้นก็ถือได้ว่าเหนือกว่าทีมอื่นๆเหลือแค่การทำผลงานให้ดีเท่านั้น และการเสริมทัพนักเตะของพวกเขาก็ดูน่าสนใจในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล
Latest Posts
- เล่นฟุตบอล การเริ่มต้นของเด็กที่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักเตะอาชีพ
- บาคาร่าสายฟ้าเว็บตรง การลงทุนที่สะดวก รวดเร็ว เล่นง่าย ได้เงินจริง
- เอ็นโซ เฟอร์นันเดซ ดีกรีดาวรุ่งยอดเยี่ยมบอลโลกเนื้อทีมใหญ่พรีเมียร์
- ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022- 23 ทีมระดับท็อป โฟร์จะเป็นอย่างไร
- ทีมเชลซี มกราคมนี้ เตรียมเปิดตัวแข้งรายแรกของ แกรม พอตเตอร์
- 0
การซื้อขายนักเตะของลีกอังกฤษอย่าง พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ในฤดูกาล 2022 ได้ทำการจบลงไปแล้ว ปีนี้ตลาดการซื้อขายนักเตะ ดุเดือดร้อนแรงอย่างมาก มีทั้งทีมที่ได้นักเตะตามที่ต้องการ กับทีมที่นักเตะไม่ยอมมา ก็ต้องผิดหวังกันตามกันไป มีหนึ่งการซื้อขายนักเตะคนหนึ่ง ที่ไม่ค่อยมีใครสนใจ หรือสำนักข่าวไหนสนใจจะทำข่าวสักเท่าไรนัก อย่างนักเตะ แพทริค คูโตรเน่ นักเตะดาวรุ่งจากทีมปีศาจแดงดำ เอซีมิลาน ที่ย้ายมาค้าแข่งกับทีม หมาป่า วูล์ฟแฮมป์ตัน แต่เจ้าตัวเองกับไม่สามารถโชว์ฝีเท้าอันร้อนแรง เหมือนตอนอยู่กับทีมเอซีมิลานได้เลย
และก่อนที่ตลาดซื้อขายในฤดูกาล 2022 จะทำการปิดตลาด เจ้าตัวได้ย้ายกลับไปค้าแข้งยังประเทศอิตาลีเหมือนเดิม วันนี้เราจะมาย้อนดูนักเตะจากอิตาเลี่ยน ที่ย้ายมาค้าแข้งในลีกอังกฤษ แต่ฟอร์มห่วยเล่นไม่ออก เคยมีนักเตะคนใดบ้างเราไปดูกัน

2 รายชื่อนักเตะอิตาเลี่ยน ที่มา พรีเมียร์ลีกอังกฤษ แล้วฟอร์มห่วย
- นักเตะที่ชื่อว่า ซิโมเน่ ซาซ่า เขาคนนี้โด่งดัง จากการเล่นให้ทีมชาติในจังหวะที่ซอยเท้ายิงจุดโทษข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น ใส่ทีมอินทรย์เหล็กเยอรมันนีในศึกฟุตบอลยูโรปี 2016 เป็นนักเตะที่เล่นให้กับทีม ม้าลายยูเวนตุส ก่อนจะถูกทีมขุนค้อนเวสต์แฮมยืมตัวมาใช้งาน กับค่าตัว 5 ล้านยูโร ได้ลงเล่นนัดแรกเป็นการพบเจอกับทีมวัตฟอร์ด ผลการแข่งขันทีมเวสต์แฮมแพ้ ตลอดชีวิตในลีกอังกฤษ ได้ลงเล่นไปแค่เพียง 8 ครั้ง บอลถ้วยใหญ่อีก 3 ครั้ง แต่เจ้าตัวไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่ง ยิงประตู หรือจ่ายบอลให้เพื่อนได้เลย จนทางเวสต์แฮม ต้องขอแยกทาง
- นักเตะที่ชื่อว่า อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ นี้คือนักเตะที่เรียกได้ว่า เป็นการซื้อขายที่ห่วยแตกที่สุดของสโมสรลิเวอร์พูลเลยก็ว่าได้ นักเตะจากทีมโรม่า สื่ออิตาลีประโคมข่าวว่า นี้คือตัวแทนของต๊อตติคนต่อไป ทางลิเวอร์พูลจึงรีบทำการดึงตัวมาทันที ด้วยราคา 17 ล้านปอนด์ การย้ายมาครั้งนี้ อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ มีอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะได้ลงเล่น เมื่อลงเล่นแล้วกลับไม่สามารถโชว์ฝีเท้าได้เหมือนที่สื่อประโคมเลย จนสุดท้ายลิเวอร์พูลจึงได้ทำการปล่อยตัวกลับออกไป

- 0
ถ้าหากจะพูดถึงลีกฟุตบอลที่นักฟุตบอลจะปรับตัวได้ยากมาก โดยเฉพาะจากต่างชาติที่ย้ายมาเล่นนั่นก็คือฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งถือได้ว่าเป็นลีกฟุตบอลปราบเซียนเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะเก่งมาจากไหน เป็นนักเตะระดับโลกฝีเท้าดีแค่ไหน แต่เมื่อย้ายมาเล่นให้กับทีมฟุตบอลในลีกนี้ น้อยคนมากที่จะทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเหมือนเหมือนเดิม เพราะว่าลีกฟุตบอลของ อังกฤษ รูปแบบของการเล่นนั้นมักจะใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายพละกำลังที่ต้องวิ่งได้ไม่มีหมด ทักษะต่างๆนัดแทบจะไม่จำเป็นต้องนำมาใช้มากเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนที่เป็นนักฟุตบอลเทคนิคสูง เมื่อย้ายมาเล่นกับ พรีเมียร์ลีก นั้นมักจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ

3 อดีตแข้งต่างชาติดาวดังที่ปรับตัวไม่ได้ในศึก พรีเมียร์ลีก
เฮอร์นัน เครสโป กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงกับการค้าแข้งในศึก กัลโช่ เซเรียอา อิตาลี ในช่วงยุค 90 ถึง 2000 แม้เขาจะฟอร์มระดับโลกเมื่อเล่นไปอิตาลี แต่เมื่อย้ายมาเล่นที่อังกฤษกับสโมสร เชลซี ผลปรากฏว่าปรับตัวไม่ได้ และไม่เข้ากับรูปแบบของการเล่นของทีมข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น ที่สำคัญนั้นทุกปล่อยยืมตัวในช่วงเวลาที่ยังสังกัดสโมสร เชลซี อยู่เรียกได้ว่าเป็นช่วงตกต่ำสุดๆเลยทีเดียวส่งผลทำให้ความมั่นใจหดหาย

ดีเอโก้ ฟอร์ลัน กองหน้าที่ถูกจัดว่าระดับโลกแต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่เขาย้ายออกจาก สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยในช่วงที่เขาลงเล่นให้กับทีมดังทีมนี้ เขายิงประตูไปได้เพียงแค่ 17 ประตูจากการลงสนาม 98 เกม ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลังจากที่เข้าย้ายออกจากสโมสรไปเขาเคยกลายเป็นดาวยิงสูงสุดของยุโรป
เฟอร์นานโด มอริเอนเตส กองหน้าตัวความหวังของ ลิเวอร์พูล ย้ายจากสโมสรยักษ์ใหญ่ระดับโลก เรอัล มาดริด ร่วมทีม แต่ปรับตัวไม่ได้ufabet1688 และยิงประตูแทบจะไม่ได้เลย โดยลงสนามไปทั้งหมด 60 เกม เขายิงไปเพียงแค่ 12 ประตูในช่วงที่เล่นให้กับทีม หงส์แดง
- 0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เชลซี 3 ทีมยักษ์ใหญ่ แห่งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้รับข่าวดี หลังจากสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ประกาศจะไม่ตัดสิทธิ์ทั้ง 3 ทีมออกจากการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรปที่ยังเหลือโปรแกรมแข่งขันอยู่ในฤดูกาลนี้ แม้ว่าทั้งหมดจะเคยประกาศเข้าร่วมการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ก็ตาม

จากกรณีที่ 12 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งทวีปยุโรปได้มีแผนการจะจัดการแข่งขัน ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แต่สุดท้ายแผนต้องล่มไปเพราะถูกประท้วงโดยแฟนบอล รวมถึงการถอนตัวของ 8 ทีมใหญ่ไปก่อน และก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) เตรียมจะลงดาบ 8 ทีมที่ทำการถอนตัวออกมาก่อนหน้า รวมถึงเตรียมหาบทลงโทษอีก 4 ที่ยังคงเดินหน้าโปรเจกต์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก แต่มีอยู่ 3 ทีมยักษ์ใหญ่คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ เชลซี ที่ยังคงมีเกมตกค้างในฟุตบอลถ้วยยุโรปฤดูกาลนี้อยู่ ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ถึงบทลงโทษต่างๆ นาๆ

3 ทีมยักษ์ใหญ่ แห่งอังกฤษจะไม่ถูกยูฟ่า ลงโทษแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามล่าสุดคณะกรรมการสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ได้ทำการประชุมและหาบทสรุปในเรื่องของเกมที่ค้างอยู่ ผลออกมาว่า 3 ทีมยักษ์ใหญ่แห่งอังกฤษจะไม่ถูกยูฟ่า ลงโทษแต่อย่างใด และยังคงได้รับไฟเขียวให้ลงแข่งขันในฟุตบอลรายการยุโรปประกอบด้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ ยูโรป้า ลีก นัดที่ตกค้างอยู่ ผิดกับที่หลายฝ่ายคาดการณ์กันในตอนแรกว่าจะถูกลงโทษด้วยการตัดสิทธิ์

โดยในการแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นั้นจะมีสองทีมที่ต้องลงแข่งขันในรอบรองชนะเลิศนั่นคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่จะต้องพบกับ ปารีส แซงต์ – แชร์กแมงค์ และ เชลซี จะพบกับ เรอัล มาดริด ส่วนในการแข่งขัน ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก จะมีอีก 1 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่จะลงแข่งในรอบรองชนะเลิศเช่นเดียวกันโดยจะต้องพบกับโรม่า
แม้ว่าทั้ง 3 ทีมยักษ์ใหญ่จะไม่โดยบทลงโทษจาก ยูฟ่า ในครั้งนี้ แต่ทั้งหมดรวมกับอีก 9 ทีมที่เข้าร่วม ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ลีก ในตอนแรกนั้น ยูฟ่า จะต้องมีบทลงโทษมาจัดการอย่างแน่นอน
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน และถ้าใครกำลังมองหาเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ สมัครได้ที่ sexy baccarat เพื่อความสนุก และตื่นเต้น อย่างปลอดภัย โอนไว รับเงินจริง
- 0
ริวัลโด้ กองกลางในตำนานทีมชาติบราซิล ของสโมสร บาร์เซโลน่า ออกมาแนะนำ “ฟิลิปเป้ คูตินโญ่” รุ่นน้องในทีมชาติให้ย้ายกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง จะทำให้ฟอร์มที่หายไปกลับมาอีกครั้ง เพราะเขาเคยพิสูจณ์ให้เห็นมาแล้วครั้งหนึ่งในการเล่นกับ ลิเวอร์พูล

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ กองกลางเชิงสูง วัย 28 ปี หมดสัญญายืมตัวกับ บาเยิร์น มิวนิค และไม่ได้รับการเซ็นต์สัญญาถาวร จึงต้องกลับไปสู่ บาร์เซโลน่า ที่เป็นต้นสังกัดที่แท้จริงตามเดิม ซึ่งทาง
บาร์ซ่า แสดงท่าทีชัดเจนปล่อย “ฟิลิปเป้ คูตินโญ่” ออกจากสโมสร
บาร์เซโลน่า แสดงท่าทีชัดเจนว่าต้องการปล่อยตัวฟิลิปเป้ คูตินโญ่ออกจากสโมสร ถึงขั้นยอมขายขาดทุนถึง 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากซื้อมาจาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงถึง 142 ล้านปอนด์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า หลายทีมจากพรีเมียร์ลีก อยากได้ตัวฟิลิปเป้ คูตินโญ่ไปร่วมทีม
ซึ่งทาง ริวัลโด้ ได้กล่าวว่า “ฟิลิปเป้ คูตินโญ่หมดสัญญายืมตัวกับยอดทีมของประเทศเยอรมันแล้ว หลังจากนั้นเขาก็จะกลับมาอยู่บาร์เซโลน่าตามเดิม แต่ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาหมดอนาคตแล้วกับทีมต่างดาว ผมอยากจะบอกให้เขา เลือกกลับไปค้าแข้งในที่ที่เขาจากมา พรีเมียร์ลีกคือที่แจ้งเกิดของเขา
และเขาควรไปเล่นที่นั่น เขาทำให้ทุกคนเห็นมาแล้วในการเล่นกับลิเวอร์พูล และตอนนั้นเขาคือนักเตะที่ดีที่สุดคนหนี่งในพรีเมียร์ลีก ฝีเท้าระดับฟิลิปเป้ คูตินโญ่สามารถย้ายไปเป็นตัวหลักของ สเปอร์ หรือ อาร์เซน่อล ได้อย่างไม่ต้องสืบ และเขาจะสามารถเรียกฟอร์มที่หายไปกลับมาได้อย่างแน่นอน”
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกกับ ลิเวอร์พูล เป็นเวลา 6 ปี ลงสนามไปทั้งหมด 201 นัด ยิงได้ 54 ประตู แบ่งเป็นการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 152 นัด ยิงได้ 41 ประตู ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2018 โดยปัจจุบันเขาลงสนามให้ บาร์เซโลน่า 76 นัด ยิงได้ 21 ประตู
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
เหตุผลหลักๆที่นักเตะหลายคนไม่อยากเล่นที่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
หากจะพูดถึงลีกฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกแล้วละก็ แฟนบอลหลายๆคนคงจะต้องนึกถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นลีกที่ทั่วโลกให้การจับตามอง อีกทั้งมีนักเตะฝีเท้าดีมากมายมาค้าแข้งอยู่ในเวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จนมีวลีติดปากที่นักฟุตบอลระดับตำนานหรือคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอลหลายๆคนชอบพูดว่า “หากจะพิสูจน์ฝีเท้าว่าตัวเองเก่งจริงหรือไม่ ต้องมาเล่นที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” แต่ก็ใช่ว่านักเตะทุกคนจะสนใจในการมาค้าแข้งในประเทศอังกฤษ วันนี้เราจะมาดูกันว่าทำไมนักเตะหลายๆคนจึงไม่อยากมาเล่นที่พรีเมียร์ลีกอังกฤษ

เหตุผลข้อแรกคือสไตล์การเล่น ต้องยอมรับว่า สไตล์ฟุตบอลอังกฤษนั้นต่างจากลีกดังๆต่างๆทั่วโลก โดยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นเน้นความแข็งแกร่งของสภาพร่างกายและการเข้าบอลที่หนักหน่วง ทำให้นักเตะชื่อดังหลายๆคน ไม่อยากเอาตัวเองมาเสี่ยงเพราะกลัวหายเจ็บกลับมาแล้วจะไม่เหมือนเดิม หรือไม่สามารถปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษได้ ซึ่งก็มีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนที่ไม่สามารถปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้ จนไม่สามารถกลับไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพได้

เหตุผลข้อที่สอง คือโปรแกรมการแข่งขันที่ถี่มากเกินไป ต้องยอมรับว่า เสน่ห์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่แตกต่างจากลีกฟุตบอลชั้นนำของประเทศอื่นๆ นั่นก็คือ บ็อกซิ่ง เดย์ โดยเป็นการแข่งขันฟุตบอลที่เวลาพักค่อนข้างน้อย มีโปรแกรมการแข่งขัน 3-4 นัดใน 1 สัปดาห์ ซึ่งจะตรงกับช่วง ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของทุกๆปี นั่นหมายความว่า ที่ประเทศนั้นอังกฤษไม่มีการเบรกหนีหนาว ทำให้นักเตะไม่สามารถกลับบ้านไปฉลองคริสมาสต์กับครอบครัวได้
เหตุผลสุดท้าย ภาษี แน่นอนว่าเรื่องเงินๆทองๆนั้น ไม่เข้าใครออกใคร รวมไปถึงวงการฟุตบอล โดยพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีอัตราการเก็บภาษีนักเตะต่างชาติสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงที่สุดในบรรดาลีกชั้นนำของยุโรป โดยลีกที่ได้รับความนิยมใกล้เคียงกับพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็น ลาลีก้า สเปน หรือ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มีอัตราการเก็บภาษีนักเตะต่างชาติ แค่เพียง 43 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น

ต้องบอกก่อนว่าเหตุผลที่กล่าวมานั้น ไม่ได้ตัดสินว่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นไม่ดี เพียงแต่ว่าเป็นเหตุผลหลักๆที่นักเตะและโค้ชหลายๆคนเคยพูดถึง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนที่สมัครใจมาเล่นที่พรีเมียร์ลีกอังกฤษ และประสบความสำเร็จในอาชีพฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ เพราะสุดท้ายแล้ว การเลือกว่าเราจะเล่นในลีกไหนก็ขึ้นอยู่กับตัวของนักเตะเอง