Month: October 2020
- 0
ทีมชาติอังกฤษ ภายใต้การคุมทัพของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องนัดล่าสุด เอาชนะ ทีมชาติเวลส์ 3-0 ซึ่งทั้งสามประตู ได้จากการยิงของ โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน ศูนย์หน้าฟอร์มร้อนของ เอฟเวอร์ตัน ทีมจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก บวกด้วยอีกหนึ่งประตูจาก คอเนอร์ โคอาตี้ ดาวเตะ ทอตแนมฮอต สเปอร์ และ แดนนี่ อิงค์ ดาวยิงจาก เซาแธมตัน ซึ่งนั่นเป็นการยิงประตูแรกในนามทีมชาติของทั้งสามคน

ซึ่งทาง “แกเร็ธ เซาธ์เกต” ได้กล่าวว่า “ลูกทีมของผมเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม”
“มันเป็นเกมที่ยากพอสมควร เพราะเราใช้งานผู้เล่นหน้าใหม่ที่พึ่งจะรวมตัวกันได้ไม่นาน ช่วงต้นเกมอาจจะดูติดขัดเล็กน้อย แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง คัลเวิร์ต เลวิน เล่นหน้าเป้าได้อย่างยอดเยี่ยม การเคลื่อนที่ของเขาค่อนข้างอันตราย และมีประโยชน์กับทีม เขาเล่นเพรสซิ่งตั้งแต่แดนหน้า แถมยังเบิกประตูแรกในนามทีมชาติได้ด้วย ในส่วนของ แจ็ค กรีลิซ เขายอดเยี่ยมเช่นกัน เขาครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น เรียกฟาล์วจากคู่แข่งได้ และสามารถเอาตัวรอดได้ในพื้นที่แคบๆ ทั้งสองคนควรภูมิใจกับฟอร์มการเล่นของตนเองในเกมนัดนี้”
ทีมชาติอังกฤษ มีโปรแกรมลงสนามในฟุตบอล ยูฟ่าเนชั่นลีก โดยจะพบกับ ทีมชาติเบลเยี่ยม ในวันที่ 11 ตุลาคม และพบกับ ทีมชาติเดนมาร์ก ในวันที่ 14 ตุลามคม 2563
โดมินิค คัลเวิร์ต เลวิน อยู่กับ เอฟเวอร์ตัน มาตั้งแต่ปี 2016 ลงสนามให้ทีมไปแล้ว 140 นัด ยิงได้ 41 ประตู ทางฝั่ง แจ็ค กรีลิซ อยู่กับ แอสตัล วิลล่า มาตั้งแต่เป็นนักเตะเยาวชน ลงสนามให้ทีมไปแล้ว190 นัด ยิงได้ 29 ประตู
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ทีม ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมฟุตบอลชื่อดัง ที่ยังคงมนต์ขลังอยู่ในใจแฟนบอลฟุตบอลยุโรปมาโดยตลอดตั้งแต่ยุคช่วงปี 80-90 จนถึงปัจจุบันแม้ว่าผลงานการแข่งขันของทีมผีแดงจะลดน้อยถอยลงจากเดิมเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะเมื่อเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สุดยอดผู้จัดการทีมได้วางมือในการคุมทีมผีแดงไป ในปี 2013 นับแต่นั้นเป็นต้นมาทีมผีแดงก็มีผลงานการแข่งขันขึ้นๆลงๆไม่แน่ไม่นอน และก็มีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมไปแล้วมากมายหลายคน แต่ก็ยังไม่มีผู้จัดการทีมคนใดที่สามารถพาทีมผีแดงกลับขึ้นสู่ความสำเร็จได้อีกครั้งหนึ่งเหมือนครั้งที่ผีแดง อยู่ในมือการคุมทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

โดยผู้จัดการทีม ผีแดง คนล่าสุดนั่นก็คือ “โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์”
อดีตนักเตะทีมผีแดงเจ้าของฉายาเพชฌฆาตหน้าทารก ซึ่งเข้ามารับหน้าที่แทนโชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมที่ถูกปลดจากผีแดงไปในการเกิดฤดูกาล 2018-2019 ที่ผ่านมา ซึ่งโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ก็ทำได้ดีบ้างแย่บ้างในแต่ละนัดการแข่งขัน
โดยในฤดูกาลแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018-2019 ทีมผีแดงจบการแข่งขันที่อันดับ 6 หากแต่คะแนนของพวกเขาน่าจะมีระดับสูงมากกว่านี้อีกหากว่าทีมผีแดงไม่เล่นได้อย่างย่ำแย่ในช่วงท้ายฤดูกาล
และในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล 2019-2020 ก็เช่นเดียวกันที่การแข่งขันในครึ่งแรกแย่ลงเป็นอย่างมากแต่ก็โชคดีที่ผีแดงสามารถหนีเส้นตายของฝ่ายผู้บริหารทีมด้วยการคว้าอันดับ 3 ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษมาครอบครองได้สำเร็จในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง ได้ไปเล่นยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาล 2020 2021 มาครอบครองได้สำเร็จนั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าการแข่งขันในพรีเมียร์ลีกอังกฤษฤดูกาล 2020-2021 นี้สถานการณ์ของทีมผีแดง ออกจะเริ่มต้นได้อย่างย่ำแย่เป็นอย่างมากจนน่าใจหาย เพราะจากการแข่งขันมาแล้ว 3 นัด (ข้อมูลในวันที่ 11 ตุลาคม 2020 เวลา 16.00 น.) พวกเขาชนะได้เพียงแค่ 1 นัดเท่านั้น และพ่ายแพ้ไปแล้ว 2 นัดด้วยกัน

แถมนัดล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งจะพ่ายแพ้นั่นก็คือทีมไก่เดือยทอง สเปอร์ส ที่คุมโดย โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมของผีแดงเองพาทีมมาถล่มทีมผีแดงถึงบ้านยับ 1-6 ประตู ซึ่งผลงานการแข่งขันที่ย่ำแย่ขนาดนี้ มันจึงทำให้ฝ่ายผู้บริหารของทีมผีแดงอาจจำเป็นต้องตัดใจสั่งปลด โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ออกจากการเป็นผู้จัดการทีมเร็วๆ นี้ก็เป็นได้
หากว่าผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของผีแดงยังปล่อยให้สถานการณ์ของทีมมีผลงานการแข่งขันย่ำแย่ติดต่อกันไปอีก สำหรับผู้จัดการทีมที่มีข่าวว่าตกเป็นเป้าหมายของทีมผีแดงที่จะดึงตัวมาคุมทีมแทนนั่นก็คือเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ อดีตผู้จัดการทีมชื่อดังที่ถูกปลดจากไก่เดือยทอง สเปอร์ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานั้นเอง
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
เซลจ์โก บูวัช ผู้อำนวยการกีฬาไดนาโม มอสโกว ทีมดังแห่งลีก รัสเซีย ยืนยันชาตินี้ไม่มีทางจะญาติดีกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ทีมดังของพรีเมียร์ลีกอังกฤษอีกแล้ว และไม่คิดจะยินดีกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ แต่อย่างใดหลังพา “หงส์แดง” เถลิงบังลังก์แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมระบุ การที่ลิเวอร์พูลบินสูงอยู่ในเวลานี้เป็นผลงานจากฝีมือของเขาทั้งนั้น

โดย เซลจ์โก บูวัชเปิดเผยว่า “ผมมีความสุขที่เห็นนักเตะ เห็นแฟนบอลดีใจกับแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่ผมไม่แสดงความยินดีกับ เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ อย่างเด็ดขาด ผมทำงานหนักเพื่อลิเวอร์พูล และมีหน้าที่เหมือนผู้จัดการคนหนึ่ง ผมช่วยเหลือทีมทุกอย่างเพื่อต้องการให้ทีมประสบความสำเร็จ แต่ไม่อยากจะออกหน้าสื่อแค่นั้นเพราะผมไม่ต้องการเป็นจุดเด่นในหน้าสื่อ”
นอกจากนี้ เซลจ์โก บูวัชยังกล่าวอีกว่า “ตอนนี้ผมไม่อยากจะทำงานเป็นผู้จัดการทีมแต่อย่างใด แต่หากบาร์เซโลนา ติดต่อมาผมอาจจะเปลี่ยนใจ แต่ถ้าเป็นทีมอื่นผมคงไม่เอา หลายๆ คนมองว่าผมรอคอยโอกาสที่ดีกว่า แต่หากคุณได้รู้ความจริงถึงทีมที่ติดต่อเข้ามาหาผม และทีมที่ผมได้ตอบปฏิเสธไป คุณจะไม่กล้าพูดแบบนั้นออกมา แต่ผมไม่อยากจะเอ่ยถึงหรอกว่ามีสโมสรอะไรบ้าง”

สำหรับ “เซลจ์โก บูวัช” วัย 59 ปี ร่วมงานกับ “เจอร์เก้นน์ คล็อปป์“
มาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยที่อยู่ ไมนซ์, ดอร์ทมุนด์ มาจนถึง ลิเวอร์พูล เป็นระยะเวลา 17 ปีด้วยกันที่ทั้งคู่ร่วมงานกันและ เซลจ์โก บูวัชได้รับฉายาว่า “เดอะ เบรน” เพราะคอยดูแลเรื่องต่างๆ และแนะนำเสนอแผนการเล่นมากมาย แต่แล้วเมื่อเดือนเมษายน ปี 2018 ทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์ลง โดยที่ไม่มีใครทราบว่าเหตุผลที่แท้จริงมาจากอะไร
หลังจากนั้น เซลจ์โก บูวัชได้เดินทางไปร่วมงานกับ ไดนาโม มอสโกว ในฐานะผู้อำนวยการกีฬา ส่วน เจอร์เก้นน์ คล็อปป์ ได้แต่งตั้งผู้ช่วยขึ้นมาใหม่และหวยไปออกที่ เปปิน ลินเดอร์ส ชาวเนเธอร์แลนด์ เข้ามารับหน้าที่แทน ซึ่งประวัติฝีไม้ลายมือของโค้ชผู้นี้ก็ไม่ธรรมดาเคยผ่านงานในศูนย์ฝึกนักเตะเยาวชนของ เอฟซี ปอร์โต มา 7 ปี และของ พีเอาวี ไฮนด์โอเฟ่น อีก 5 ปีด้วยกัน
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ดิดิเยร์ เดส์ชองป์ กุนซือทีมชาติฝรั่งเศสเผย กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติฝรั่งอย่างอองตวน กรีซมันน์ กำลังเผชิญสภาวะความทุกข์กับการเล่นในระดับสโมสรกับบาร์เซโลน่า
โดยกุนซือทีมชาติฝรั่งเศสมองว่า สาเหตุที่ลูกทีมคนเก่งอย่าง กรีซมันน์ไม่มีความสุขกับการเล่นที่บาร์ซ่า เนื่องจากโรนัลด์ คูมัน กุนซือของทีม จับเขาไปเล่นในตำแหน่งปีกถี่ขึ้นในฤดูกาลนี้ แต่สไตล์ของนักเตะเป็นพวกประเภทชอบใช้ทักษะที่มีเพื่อมีส่วนร่วมกับทีม

ซึ่ง เดส์ชองป์ ได้กล่าวกับสื่อว่า “ผมคุยกับเขา (กรีซมันน์) อยู่ตลอด”
“และผมจะได้เจอเขาหลังนี้ ผมมองว่าเขาไม่มีความสุขกับการเล่นในระดับสโมสร โดยที่ผมพูดนี้ ผมไม่ได้ต้องการที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการใช้งานนักเตะของสโมสร ไม่ว่าจะบาร์เซโลน่าหรือใครทั้งนั้น โดยผมได้รู้เรื่องที่ว่าคูมันไม่เข้าใจว่าทำไมกรีซมันน์ถึงเล่นบอลในตำแหน่งตรงกลางสนาม กรีซมันน์ต้องเล่นปีก และนั่นทำให้กรีซมันน์ต้องปรับตัวให้เข้ากับแท็กติก”

“ผมมองว่ากรีซมันน์จะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเล่นตำแหน่งหัวใจของทีม เพราะนั่นจะทำให้เขาได้บอลเยอะ อีกทั้งเขาสามารถถอยมาเล่นช่วยกองกลางได้ เขาเป็นพวกที่หัวไวกับการเคลื่อนที่ ซึ่งการเอากรีซมันน์ไปเล่นริมเส้นในตำแหน่งปีก จะทำให้ประสิทธิภาพของเขาลดลง เพราะเขาไม่ได้มีความสามารถในการพาบอลและเอาชนะคู่ต่อสู้บริเวณริมเส้น เหมือนผู้เล่นตำแหน่งปีกธรรมชาติคนอื่น ๆ ” เดส์ชองป์ กล่าว
สำหรับ อองตวน กรีซมันน์สร้างชื่อตั้งแต่สมัยอยู่กับทีมเรอัล โซเชียดาด จนแอตเลติโก มาดริด ได้ดึงตัวมาร่วมทีมและอยู่เป็นกำลังหลักในแนวรุกของทีม จนสุดท้ายบาร์เซโลน่า ก็ได้มาสู่ขอเพื่อพาขึ้นยานด้วยค่าตัว 120 ล้านยูโร แต่ดูเมื่อกับว่าการย้ายมาอยู่บาร์ซ่าของเขาราว 1 ฤดูกาลเศษ กรีซมันน์ไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้เหมือนสโมสรที่เขาเคยอยู่มาก่อนหน้านี้ อีกทั้งการที่คูมัน จับขาไปเล่นปีก คงต้องติดตามกันต่อไปว่า กรีซมันน์จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับตำแหน่งใหม่นี้ได้หรือไม่
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ฟูแล่ม ทีมน้องใหม่ พรีเมียร์ลีก ที่แพ้รวดมา 4 นัดในฤดูกาลนี้ ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้คว้าตัว รูเบน ลอฟตัส ชีค กองกลางของสโมสร เชลซี มาร่วมทีม โดยจะเซ็นต์สัญญายืมตัว เป็นระยะเวลา 1 ฤดูกาล โดยไม่มีออปชั่นซื้อขาด

“รูเบน ลอฟตัส ชีค” ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ไม่มีพื้นที่ว่างในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์
ภายใต้การคุมทีมของ แฟรงค์ แลมพาร์ด โดยในตำแหน่งเดียวกันมีทั้ง ไค ฮาเวิร์ต ดาวดังทีมชาติเยอรมัน และ เมสัน เมาท์ ขวางทางอยู่ ทางฝั่ง ฟูแล่ม ที่สถานการณ์กำลังแย่อย่างหนัก หลังจาก 4 นัดแรก ไม่สามารถเก็บคะแนนได้เลย จึงอาศัยจังหวะดังกล่าวอาสาเก็บเลเวลให้กับ ลอฟตัส ชีค ซึ่งทาง ฟูแล่ม สามารถการันตีตัวจริงให้กับนักเตะได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักเตะ และสโมสรต้นสังกัดจริงต้องการ ซึ่งทาง ลอฟตัส ชีค ได้กล่าวว่า “ผมอยากจะบอกว่าผมยินดีที่ได้ย้ายมาเล่นกับ ฟูแล่ม ถึงแม้จะเป็นการย้ายมาอยู่กับทีมบ้านใกล้เรือนเคียงก็ตาม หวังว่าแฟนบอลคงเข้าใจ ผมได้มีโอกาสดู ฟูแล่ม อยู่บ้าง แนวทางการเล่นก็น่าสนใจดี และผมคิดว่า ผมจะกลับมาปังอีกครั้งกับสโมสรแห่งนี้ เป้าหมายหลักของผมคือการได้ลงสนาม และช่วยทีมเก็บชัยชนะให้ได้มากที่สุด”
รูเบน ลอฟตัส ชีคอยู่กับทีมเยาวชนของสโมสร เชลซี มาตั้งแต่ปี 2004 ถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ ในปี 2014 ปัจจุบันได้ลงสนามให้ทีมสิงห์บลู 82 นัด ยิงได้ 12 ประตู ผลงานที่ดีที่สุดคือ การได้ลงสนาม 40 นัด ยิงได้ 10 ประตู ในฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งในฤดูกาลนั้น เชลซี ได้แชมป์ยูโรป้าลีก ติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ 10 นัด ประเดิมสนามในนามทีมชาตินัดแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ในเกมที่ทีมชาติอังกฤษ เสมอกับ ทีมชาติเยอรมัน 0-0 ในฟุตบอลนัดอุ่นเครื่อง
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
โปรแกรมทีมชาติตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ส่องเกิดดราม่าเล็กน้อย เมื่อทีมชาติสเปน กับ ทีมชาติมาลี ต่างเปิดศึก เรียกอดามา ตราโอเร ติดทีมชาติพร้อมกัน เท่ากับว่าดาวเตะหุ่นรถถังจำเป็นที่จะต้องเลือกว่าจะเล่นให้ทีมชาติใด โดยก่อนหน้านี้เขาถูกทีมชาติสเปนเรียกติดทีมชาติมาแล้ว 2 ครั้ง แต่โชคร้าย เกิดอาการบาดเจ็บ และอีกครั้งคือติดเชื้อโรควิด19 ทำให้เขาต้องถอนตัวจากทีมชาติสเปนโดยยังไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นัดเดียว ทำให้ทีมชาติมาลี หวนกลับมาเรียกเขาไปติดทีมชาติอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากอดามา ตราโอเรมีบรรพบุรุษที่ถือสัญชาติมาลี

โดย”หลุยส์ เอ็นริเก้” นายใหญ่ทีมชาติสเปน ได้กล่าวถึง “ตราโอเร” ว่า
“นี่เป็นการเรียกเขามาติดทีมชาติครั้งที่สามแล้ว ผมหวังว่าเขาจะมา แต่ยังไงก็ตามแต่นักเตะคือคนตัดสินใจ แต่เท่าที่ผมเคยพบกับเขาและคุยกับเขา ผมเชื่อลึกๆ ว่าเขาจะเล่นให้ทีมชาติสเปน”
ซึ่งหากวิเคราะห์ถึงแนวโน้มที่ อดามา ตราโอเรจะเลือก น่าจะเป็นทีมชาติสเปนมากกว่า เนื่องจากเขาเกิดและเติบโตในประเทศสเปน อีกทั้งมีโอกาสประสบความสำเร็จในเวทีฟุตบอลยูโรและฟุตบอลโลกมากกว่าทีมชาติมาลี ซึ่งไม่ได้เป็นทีมชั้นนำของทวีปแอฟริกา รวมถึงเขาเป็นเด็กปั้นของบาร์เซโลน่า
มาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก่อนที่เวลาต่อมาจะโยกย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษ กับแอสตัน วิลล่า มิดเดิลสโบรช์ และวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ตามลำดับ ส่วนประเทศมาลี เป็นประเทศต้นทางบรรพบุรุษของตราโอเร เท่านั้น ซึ่งเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอะไรกับประเทศนี้เท่าใดนัก

สำหรับทีมชาติสเปน นอกจากจะเรียก อดามา ตราโอเรติดทีมชาติแล้ว ก็ยังมีในรายอื่น ๆ อีก ได้แก่ ผู้รักษาประตู 3 คน เด เคอา, เกปา, ซิมง กองหลัง 8 คน นาบาส, การ์บาฆัล, รามอส, เปา ตอร์เรส, ดิเอโก้ ยอเรนเต้, กายา, เรกีลอน, เอริค การ์เซีย กองกลาง 7 คน ฟาเบียน รุยซ์, บุสเก็ตส์, เซบาญอส, กานาเลส, กัมปานญา, โรดรี้, เมริโน, โอลโม และกองหน้า 5 คน โมเรโน, โอยาร์ซาบัล, ตราโอเร, ฟาติ, เฟร์ราน ตอร์เรส
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ของทีมไก่เดือยทอง ได้ออกโรงมาสวนกลับกุนซือใหญ่ทีมชาติอังกฤษ แกเร็ธ เซาธ์เกต หลังจากที่นายใหญ่ทั้งสองเปิดสงครามสาดน้ำลายกันเรื่องการใช้งานนักเตะฝีเท้าดี แฮร์รี่ เคน โดยทางกุนซือชาวโปรตุเกสย้ำว่าจนกว่าจะจบฤดูกาลนี้ตนจะไม่ยอมใช้งานนักเตะรวมถึงเกมการแข่งขันอุ่นเครื่อง ทั้งนี้เพื่อรักษาสภาพร่างกายนักเตะให้มีความพร้อมในการลุยศึกใหญ่มากที่สุด

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือใหญ่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรระดับยักษ์ใหญ่แห่งวงการพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่าหลังจากนี้ตัวเขาจะไม่ยอมใช้งานนักเตะคนสำคัญของทีมให้ลงสนามอีกเพื่อที่ต้องการจะรักษาความฟิตและป้องกันอาการบาดเจ็บของนักเตะ แตกต่างจากกุนซือใหญ่ของสิงโตคำรามที่เรียกใช้งานนักเตะแบบไม่มีลิมิตโดยไม่คิดถึงสภาพนักเตะกำลังกายจะรับไหวหรือไม่จนเกิดเป็นสงครามน้ำลายระหว่าง 2 ผู้จัดการทีมคนดัง สำหรับการแข่งขันในศึก ยูโร 2020 ในปีนี้ได้มีการเลือกกำหนดการจัดการแข่งขันไปในปี 2021

“เคน” เป็นนักเตะคนสำคัญของเราทุกเกม
“เคน เป็นนักเตะคนสำคัญของเราทุกเกมการแข่งขันแน่นอนว่าเราอยากที่จะมีเขาอยู่ในสนาม แต่เราเองก็ให้ความสำคัญในเรื่องร่างกายและความฟิตพร้อมของนักเตะเราไม่ต้องการให้นักเตะคนใดคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว เพราะมันส่งผลต่อการเล่นเกมระยะยาวไม่ว่าจะเป็นในรอบแบ่งกลุ่มหรือการแข่งขันเกมอุ่นเครื่องที่รออยู่ผมไม่ต้องการให้เขาเสี่ยงลงสนาม ซึ่งแตกต่างจากทางกุนซือทีมชาติของเขาโดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างสนิทกับผู้ช่วยของเขานะ เรารู้หน้าที่อยู่แล้วว่าควรปฏิบัติตัวต่อนักเตะอย่างไรหากเปรียบเทียบการใช้งานผมว่าเขาเรียกใช้งานนักเตะมากกว่าผมอีกนะ” โชเซ่ มูรินโญ่
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบันพลพรรคปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทัพของ โอเล่ห์ กุนนาร์ โซลชา ไม่ได้เป็นสโมสรยักษ์ใหญ่ของโลกอีกต่อไปแล้ว แม้ว่าผลงานนอกสนามของเขาจะยอดเยี่ยม เป็นสโมสรที่มีแฟนบอลให้การสนับสนุน รวมถึงเป็นสโมสรที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ถ้าหากหันไปมองผลงานในสนาม ก็จะเห็นเลยว่าพวกเขาล้มเหลวอย่างแท้จริง และนี่คือ 3 สิ่งสำคัญที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นจะที่จะต้องทำ ถ้าหากพวกเขาหวังจะกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งเหมือนในอดีต แต่ต้องจะทำอย่างไรนั้น เราไปหาคำตอบพร้อมๆกันได้เลยครับ
3 สิ่งสำคัญที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นจะที่จะต้องทำ

ปล่อยนักเตะที่ไม่จำเป็นออกไปจากทีม – จะว่าไปแล้วแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นทีมที่มีขุมกำลังนักเตะให้เลือกใช้ค่อนข้างมาก ซึ่งปริมาณนักเตะของพวกเขาสามารถสลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้แบบสบายๆ แต่ถ้าหากลองพิจารณาให้ลึกลงไปแล้ว ก็จะเห็นเลยว่าประสิทธิภาพของนักเตะของพวกเขานั้นต่ำเตี้ยเรี่ยดินเอามากๆ หลายคนคือนักเตะที่ไม่จำเป็นกับทีม
ไม่ว่าจะเป็น อันเดรียส เปเรย์รา , เจสซี ลินการ์ด , ฟิล โจนส์ , ดิโอโก้ ดาโลต์ , โอเดียน อิกาโล , ลี แกรนท์ , เซร์คิโอ้ โรเมโร่ แม้ว่าปล่อยนักเตะเหล่านี้ออกไป ทีมก็แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลยด้วยซ้ำ และที่สำคัญก็คือสโมสรจะลดภาระค่าใช้ภายในทีมไปได้มากเลยทีเดียว เพราะนักเตะเหล่านี้ล้วนมีค่าเหนื่อยที่สูงทั้งสิ้น

หาปราการหลัง เข้ามายืนคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยอมลงทุนกว่า 80 ล้านปอนด์ เพื่อกระชากตัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังดีกรีทีมชาติอังกฤษ จากเลสเตอร์ ซิตี้ เข้ามาเป็นผู้บัญชาการเกมรับและกัปตันทีมของสโมสร แต่พวกเขากลับไม่ยอมลงทุนซื้อคู่ขาในตำแหน่งเกมรับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เข้ามาด้วย วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ
ดูเหมือนว่าจะไม่ดีพอกับเป็นยืนเป็นปราการหลังตัวจริงให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วน เอริค ไบยี่ ก็บาดเจ็บบ่อยเหลือเกิน ขณะที่ คริส สมอลลิง และ ฟิล โจนส์ ก็ดูเหมือนว่ากำลังเตรียมที่จะย้ายออกจากสโมสรในเร็ววันนี้ และนั่นทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องคว้าตัวปราการหลังรายใหม่เข้ามาเสริมทัพ

หาแนวรุกเกรดเอ เข้ามาเสริมทัพ – สามประสานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชุดปัจจุบัน อย่าง เมสัน กรีนวู้ด , มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล อาจจะทำประตูได้เยอะก็จริง แต่จริงหนึ่งที่พวกเขาทั้งสามคนยังขาดอยู่นั่นก็คือความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่นนั่นเอง โดยเฉพาะ เมสัน กรีนวู้ด และ อองโตนี มาร์กซิยาล
ที่โดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อหันมองไปที่ตัวสำรองอย่าง แดเนียล เจมส์ หรือ โอเดียน อิกาโล่ ก็อาจจะหวังพึ่งพาอะไรไม่ได้มากนัก ดังนั้นหากพวกเขาหวังจะกลับมาทวงบัลลังก์ความสำเร็จคืน การคว้าตัวแนวรุกเกรดเอ เข้ามาเสริมทัพ คือสิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างมาก
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ในเกมคาราบาว คัพ รอบ 4 เมื่อคืนวันพุธที่ 30 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ได้อย่างไม่ยากเย็นด้วยสกอร์ 3 – 0 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ได้แบบไม่ยากเย็น โดยหนึ่งในนักเตะที่สร้างผลงานได้โดดเด่นเป็นอย่างมากคือ เอริก ไบยี่ ปราการหลังทีมชาติไอวอรี่ โสต์ ที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นนัดที่ 2 ในการแข่งขันรายการนี้

โดยในนัดก่อนหน้านี้ที่เจอกับ ลูตัน ทาวน์ “เอริก ไบยี่” ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงก็สร้างผลงานได้อย่างดี
ทั้งในเรื่องการจ่ายบอลหรือตัดบอลจนมีหลายฝ่ายอยากจะให้ เอริก ไบยี่ยืนเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แทนที่ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ ที่ช่วงหลังฟอร์มเริ่มออกทะเล
และในเกมรอบที่ 4 เมื่อคืนวันพุธที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมาเอริก ไบยี่ก็สร้างผลงานที่สุดยอดออกมาอีกครั้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเข้าสร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่เข้าปะทะได้สำเร็จถึง 100% เต็มจากการลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 2 ในศึก คาราบาว คัพ
รวมถึงการที่เอริก ไบยี่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงทั้ง 2 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บคลีนชีตได้ทั้ง 2 นัด สถิติต่อมาคือในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีเพียงแค่ เฟร็ด กองกลางชาวบราซิลเลี่ยน คนเดียวเท่านั้นที่ตัดบอลได้มากกกว่าเอริก ไบยี่

ในเกมนัดที่ผ่านมา ณ สนาม “เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม” ไม่มีนักเตะคนไหนที่ตัดบอลได้มากกว่า เอริก ไบยี่โดยตลอดทั้งเกมดาวเตะทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ตัดบอลไปทั้งหมด 3 ครั้งด้วยกัน รวมถึง เอริก ไบยี่ยังเป็น 1 ใน 3 นักเตะในเกมดังกล่าวที่สามารถบล็อกลูกยิงของฝั่งตรงข้ามได้ และสถิติสุดท้ายในเกมกับ ไบรท์ตัน
เมื่อคืนที่ผ่านมามีนักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียง 3 คนเท่านั้นที่ผ่านเข้าเป้ามากกว่าเอริก ไบยี่ โดย ไบยี่ผ่านบอลเข้าเป้าถึง 90.7 % ส่วน 3 คนที่มีเปอร์เซ็นต์สูงกว่าคือ ฆวน มาต้า, ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค และ ปอล ป็อกบา
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน
- 0
ตัดเกรดผู้เล่น ลิเวอร์พูล นัดเปิดซิงพ่ายแก่ อาร์เซ่น่อล 3-1 ไปดูสิว่ามีใครได้คะแนนเท่าไหร่กันบ้าง

อลิสซง เบ็คเกอร์ (8) : ลูกยิงของลากาแซต์แบบไม่เต็มข้อทำให้นายด่านชาวบราซิลต้องเสียประตูในจังหวะยิงตรงกรอบครั้งแรก แต่ในครึ่งหลังเห็นได้ชัดว่าเขาทำการบ้านมาเป็นอย่างดี จากจังหวะปักหลักยืนเซฟไม่หลงพุ่งไปตามจังหวะเหมือนปลายฤดูกาลที่แล้ว
เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (8) : เกมรุกโชว์ฟอร์มได้ดี ทำแอสซิตส์ 1 ลูก รวมถึงมีส่วนกับการทำประตูที่ 3 ซึ่งเปิดเข้าไปแล้วถูกเคลียร์มาเข้าทางโชต้า แต่มีตำหนิในเรื่องการเช็คล้ำหน้าพลาดจนทีมเกือบเสียประตู
โจ โกเมซ (8) : เล่นได้ดี ไม่มีจังหวะเข้าพรวด มีส่วนจังหวะเพรสซิ่งสูงและตัดบอลได้หลายหน
เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ (8) : เล่นได้ตามมาตรฐาน ไม่ค่อยมีงานหนัก เนื่องจากมี โกเมซ เป็นตัวไล่บอลด่านแรก
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน (8) : สกัดพลาดจนเสียประตูแรก แต่ก็ไถ่โทษด้วยการยิงประตูขึ้นนำ 2-1 นอกนั้นทำได้ดีในการประสานกับแนวรุกฝั่งซ้ายอย่าง มาเน่
ฟาบินโญ่ (8) : เก็บกวาดและคอยช่วยซ้อนบอลสวนกลับของคู่แข่งได้ดี ทำให้แนวรับไม่เหนื่อย

จีนี่ ไวจ์นัลดุม (7) : เล่นได้ตามมาตรฐานของตัวเอง ทั้งการไล่บอลและต่อบอลกับเพื่อนร่วมทีมอย่างต่อเนื่อง
นาบี เกอิต้า (7) : เป็นกองกลางที่ยืนสูงชิด 3 แนวรุก จ่ายบอลได้ดี แต่ว่าในครึ่งหลังเหมือนโดนลักพาตัวไป จึงถูกเปลี่ยนตัวออก
โม ซาลาห์ (8) : จังหวะประตูตีเสมอ มีส่วนสำคัญต่อการได้ประตู จากการวิ่งฉีกหนีเทียร์นี่จนเสียหลัก นอกจากนี้ยังถอยตัวเองมาเชื่อมเกมให้บอลไหลลื่น รวมถึงช่วงท้ายเกมที่วิ่งตัดเข้าในและจ่ายให้ โชต้า ซึ่งหากเป็นประตู สามารถเป็นแอสซิตส์แห่งฤดูกาลได้เลย
บ๊อบบี้ ฟิร์มิโน่ (7) : เล่นได้ตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่สามารถโชว์ในพื้นที่ของตัวเองได้
ซาดิโอ มาเน่ (8) : ต้นเกมเกือบยิงประตูให้ทีมขึ้นนำหากมีความเฉียบคมมากกว่านี้ แต่ก็มายิงประตูตีเสมอให้กับทีมได้ นอกนั้นก็ช่วยวิ่งไล่บอล รวมถึงพาเบเยริน กับ โฮลดิ้ง ท่องเที่ยวด้วยการวิ่งแข่งจนขาอ่อนแรง ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกไปพัก
ตัวเกรดตัวสำรอง ลิเวอร์พูล
เจมส์ มิลเนอร์ (7) : ส่งลงมาเพื่อให้เกมแดนกลางนิ่ง ซึ่งก็ทำได้ตามมาตรฐาน
ดิโอโก้ โชต้า (7) : ลงมา 10 นาทีกว่า มีโอกาสยิง 3 ครั้ง ซึ่งลูกที่ ซาลาห์จ่ายมานั้นควรนิ่งกว่านี้ แต่ก็แก้ตัวยิงประตูแรกได้ จากลูกโหม่งสกัดของคู่แข่ง
ทาคุมิ มินามิโนะ : ไม่มีคะแนน เนื่องจากลงมาช่วงใกล้หมดเวลา
อ่านข่าวกีฬาและข่าวฟุตบอล และ ข่าวโยกย้ายตัวผู้เล่น อัพเดทใหม่ทุกวัน