ซีเนอร์ดีน ซีดาน

หากพูดถึงมหกรรมฟุตบอลโลกนั้น แน่นอนว่าเป็นมหกรรมฟุตบอลที่แฟนบอลทั้งโลกรอคอย ซึ่งมหกรรมฟุตบอลโลกนั้นมีกระแสตอบรับที่ดีในทุกๆปี รวมไปถึงมหกรรมฟุตบอลโลกปี 2006 ที่จัดขึ้นที่ประเทศเยอรมัน ซึ่งมีเหตุการณ์ต่างๆให้พูดถึงมากมาย แต่ไฮไลท์ของฟุตบอลโลกในครั้งนั้น ไม่ใช่การคว้าแชมป์ของทีมชาติอิตาลี แต่เป็นเหตุการณ์ เฮดบัตบันลือโลก ในนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลโลกครั้งนั้น วันนี้เราจะย้อนเวลากลับไปในมหกรรมฟุตบอลโลกปี 2006 ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร

ฟุตบอลโลกปี 2006

เหตุการณ์ เฮดบัตบันลือโลก เกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2006

เหตุการณ์ เฮดบัตบันลือโลก นั้นเกิดขึ้นในฟุตบอลโลกปี 2006 ในนัดชิงชนะเลิศ โดยเป็นการมาเจอกันของ 2 ยอดทีมแห่งยุโรป ทีมชาติฝรั่งเศสที่นำทัพมาโดย ซีเนอร์ดีน ซีดาน จอมทัพมากประสบการณ์ ที่ประกาศกร้าวจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเพื่อปิดฉากอาชีพฟุตบอลของเขา โคจรมาพบกับทีมชาติอิตาลี ที่แน่นไปด้วยเหล่าซุปเปอร์สตาร์ทุกตำแหน่ง เรียกได้ว่าเป็นฟุตบอลคู่หยุดโลกก็ว่าได้ โดยเกมในนัดนั้นเหมือนว่าจะเป็นใจให้กับ ซีเนอร์ดีน ซีดาน โดยเขายิงประตูขึ้นนำให้กับทีมชาติฝรั่งเศสในช่วงต้นเกม แต่แล้วทีมชาติอิตาลีก็ได้ความเก๋าเกมของ มาร์โก มาเตรัซซี่ ยิงประตูตีเสมอ จนต้องต่อเวลาพิเศษ

ฟุตบอลโลกปี 2006

และในช่วงต่อเวลาพิเศษนี่เองที่เป็นฝันร้ายของ ซีเนอร์ดีน ซีดาน แทนที่มันจะเป็นการปิดฉากอาชีพที่สวยงามของเขา แต่กลับกลายเป็นวันที่ มาร์โก มาเตรัซซี่ กลายเป็นฮีโร่ โดยขณะที่เกมในสนามกำลังสนุกและสูสี มาร์โก มาเตรัซซี่ ได้เข้าไปยั่วยุ ซีเนอร์ดีน ซีดาน โดยใช้วาจาที่หยาบคายกล่าวล่วงเกินคุณแม่และพี่สาวของ ซีเนอร์ดีน ซีดาน ทำให้ซีดานทนไม่ไหว เอาหัวโขกเข้าไปที่หน้าอกของ มาร์โก มาเตรัซซี่ จนเกิดเป็นเหตุการณ์ เฮดบัตบันลือโลก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ ซีเนอร์ดีน ซีดาน โดนไล่ออกจากสนามทันที และส่งผลให้ทีมชาติฝรั่งเศสแพ้ทีมชาติอิตาลีในการดวลลูกจุดโทษในท้ายที่สุด

ฟุตบอลโลกปี 2006

ฝันร้ายของ ซีเนอร์ดีน ซีดาน ฟุตบอลโลกปี 2006

จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นนับว่าเป็นฝันร้ายที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของ ซีเนอร์ดีน ซีดาน แทนที่เขาจะได้ปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลอย่างสวยหรู กลับต้องมาเป็นผู้ร้ายในสายตาของแฟนบอล เนื่องจากเป็นตัวการทำให้ทีมเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน ทำให้ทีมพ่ายแพ้ไปในที่สุด และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ เฮดบัตบันลือโลก จะผ่านมานานกว่า 14 ปีแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้นยังคงเป็นที่พูดถึงของแฟนบอลทั่วโลกจากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้

ประวัติ ซีเนอร์ดีน ซีดาน
ติดตามข่าวบอลที่คุณไม่ควรพลาดได้ที่นี่

Posted in ข่าวกีฬา, ข่าวฟุตบอล